ต่อจากเชียงคานนะครับ…

ไปเชียงคานห้ามพลาดเลยครับ ต้องขึ้นภูทอก
พระอาทิตย์กลมโต ทะลุหมอกหนา กับแสงแดดอ่อน ๆ


การเดินทางไปภูทอก

จากเชียงคาน ให้ไปทางแก่งคุดคู้ น่าจะประมาณ 5 กม. นะครับ
สามารถขับรถส่วนตัวไปได้ หรือสอบถามคนแถวนั้น เหมารถสามล้อ หรือกะบะไปก็ได้ครับ
แต่พอไปถึงภูทอก เค้าจะให้จอดรถ แล้วไปต่อรถสองแถวท้องถิ่นครับ ค่าบริการน่าจะคนละ 20 บาท

ตื่นเช้าหน่อยนะครับ เดี๋ยวจะไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้นเอา
ส่วนผมเดินทางไปถึงประมาณ 6 โมงเช้า ยังมืดอยู่เลย หน๊าวหนาว
สำหรับคนที่เดินทางไปช่วงฤดูหนาว เตรียมเสื้อผ้าให้พร้อมด้วยนะครับ

ขึ้นไปถึง ข้างบนไม่ค่อยมีที่ให้เดินเล่นเท่าไหร่ ยืนชมหมอกไปสั่นไป
วิวสวยมากครับ ประทับใจมากมาย

 

 

 

 

 

 

 

 


รถสองแถวพาวิ่งทะลุทะเลหมอกขึ้นมา มองลงไปไม่เห็นอะไรเลย
อากาศเย็นสดชื่น สูดให้เต็มปอด เพราะเดี๋ยวก็ต้องกลับแล้ว T-T


พระอาทิตย์กำลังขึ้น ฟ้าค่อย ๆ เปลี่ยนสี มองไป ไกล ๆ นู้น.. เห็นภูเขา
ตรงภูเขา มีแอ่ง ๆ แล้วก็มีหมอกอยู่ตรงนั้นด้วยแหละ *0*

ถ่ายพระอาทิตย์ดวงโตกะลังขึ้น มาให้ดูเป็นช็อต ๆ

 

 

 

 

ส๊วยสวย


พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ตอนนี้สว่างแล้วครับ เดิน ๆ ดูแถวนั้น
ก็จะเห็นพวกน้ำค้างเกาะยอดหญ้า เลยได้รูปนี้มา

แสงแดดตอนเช้าที่ตัดกับหมอกนี่นุ่มนวลจัง

หลังจากชมทะเลหมอกที่ภูทอกเสร็จแล้วก็เดินทางกลับไปที่เชียงคานต่อครับ
ไปกินข้าวในตลาด ใครพักอยู่แถวริมแม่น้ำโขงตลาดเดินทะลุซอย 9 ไปนิดหน่อยครับ
เอะใจอยู่ร้านนึง เป็นร้านซาลาเปาทอดร้านนึง มีไส้ให้เลือกหลายแบบ พวกหมูสับ หมูแดง กะหล่ำ
ลองกินแล้วอร่อยดีครับ แต่ลืมถ่ายรูปไว้ กินเพลิน T-T

จากนั้นออกเดินทางไปภูเรือต่อครับ ภูเรืออยู่ห่างจากเชียงคานไปไม่ไกลครับ
สอบถามคนท้องถิ่นเค้าบอกว่าวิ่งเลาะถนนที่เลียบแม้น้ำโขงไป ประมาณ 45 กม.
แต่เห็นว่าเส้นทางไม่ค่อยดี ผมเลยเดินทางไปตั้งหลักที่ จ.เลย ก่อนแล้วค่อยตรงไปภูเรือ
จากเลยไปภูเรือระยะทางประมาณ 40 กม. ครับ ระหว่างทางพอใกล้ภูเรือเรื่อย ๆ
ก็เริ่มมีที่พักให้เลือกครับ เส้นที่ขึ้นภูเรือก่อนเข้าเขตอุทยานก็มีที่พักให้เลือกเหมือนกัน

***ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติภูเรือ คนละ 40 บาทครับ รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท

ถึงแล้วจุดกางเต้นท์ ใครเอาเต้นท์มาเสียค่าบริการ 30 บาท ครับ
สำหรับคนที่ไม่มีเต้นท์มาทางที่ทำการมีเต้นท์กางไว้ให้เช่าเรียบร้อยครับ
เต้นใหญ่ครับ ถ้านอนเบียด ๆ กันคงได้ประมาณ 4 คน
เต้นท์พร้อมชุดเครื่องนอน (ถุงนอน + ผ้าห่ม) ราคา …. น่าจะ 450-550 เนี่ยแหละ ผมจำไม่ได้ 555
พอดีไปมานานแล้วครับเพิ่งจะมีโอกาสมาเขียน

จุดกางเต้นท์ต้นไม้สวยมากเลยครับ + กับวันที่มาอากาศดีมาก เลยได้ภายสวย ๆ มาครับ
หน้าตาเต้นท์ของทางอุทยานที่ให้เช่าครับ อยู่ไม่ไกลห้องน้ำมากครับสะดวกสบาย

ดอก…อะไรอ่ะ ใครรู้ โพสบอกหน่อยนะครับ มันจะหันหน้าไปทางพระอาทิตย์เหมือนดอกทานตะวันเลย
ออกเป็นทุ่งเลยครับ อลังกาลมาก ตอนไปไม่รู้นะเนี่ยว่ามีแบบนี้ด้วย ประทับใจมากมายครับ

ใกล้ ๆ จุดกางเต้นท์จะมีจุดชมวิว และน้ำตกต่าง ๆ สามารถเดินไปชมกันได้ครับ
ผมเลือกจุดที่ใกล้ที่สุด คือ น้ำตกหินสามชั้น ใกล้จริง ๆ ครับเดินไปประมาณ 300 เมตร เอง

ระหว่างทางเจอเจ้าที่ …หน้าตากวนประสาท แต่ขี้อ้อนผิดคาด
เหมือนกับว่ามันเองก็กำลังจะไปทางนั้น แล้วก็รอให้มีคนไป เพื่อที่จะเดินไปด้วย
ตอนแรก ก็จะไม่ให้มันไปด้วยเพราะไม่รู้ กลัวมันไปวิ่งเล่นแล้วคลาดสายตา
แล้วเดี๋ยวจะหลงในป่าแล้วจะกลับไม่ถูก ที่ไหนได้ พวกคล่องปรื๋อ

เปลี่ยนมาเป็นผู้นำทางซะงั้น เออ เอ็งเก่ง
ซักพักมันก็ไปหาเล่นกับแมลง แล้วก็นั่งจ้อง ๆ ไปในน้ำ
หรือ มันคิดว่าตัวเองเป็นหมี จะจับปลารึเปล่า

ดีที่บนนี้อากาศเย็นครับ บริเวณน้ำตกเลยไม่ร้อนอบอ้าว
ส่วนน้ำในน้ำตกที่ไหลมานั้น เย็นเจี๊ยบ คงไม่มีใครลงไปเล่นมั้ง

ตอนกลับ ลูกพี่ก็ยังตามมาส่ง
พวกชอบวิ่งตัดหน้า แล้วมานอนแอ้งแม้งขวางทาง เรียกร้องความสนใจจะให้เล่นด้วยอยู่ตลอด

ระหว่างตรงทางไปห้องน้ำ เจอแมงมุมตัวเบ้ก สีสวยดี
มีแมลงติดใยอยู่ตรึมเลย กินกันนุ่มไปเลย

แถวนี้ ค่ายสีฟ้า มาถึง อิอิ

พระอาทิตย์เริ่มตกดิน บริเวณเต้นท์ก็เริ่มจะมือ จะมีจุดที่มีไฟบางจุดที่สว่าง
จะจุดเตาหรือกางเต้นต้องรีบทำก่อนดึกครับ เดี๋ยวจะลำบาก

เรื่องอาหารไม่ต้องหวงที่ร้านข้าวสวัสดิการอยู่ 3 ร้าน แถมอร่อยด้วยครับ
ใครไม่ได้เตรียมเตาไป ที่ร้าน มีเตาให้เช่า และมีมันให้เอาไปเผากินแก้หนาวกันด้วย ได้บรรยากาศมาก ๆ

ตกดึกที่นี่จะปิดให้บริการไฟฟ้าครับ เนื่องจากเครื่องปั่นไฟจะปิดหลัง 4 ทุ่ม
ไฟตามทางจะปิดหมดเลย รวมทั้งที่ห้องน้ำด้วยครับ ใครวางแผนจะมาแนะนำให้เตรียมไฟฉายมากด้วยครับ
ส่วนผม…ไม่รู้…. ใช้ไฟฉายสลัว ๆ ในมือถือเนี่ยแหล่ะ ส่องเดินไป

แต่ก็อย่างที่เห็นครับว่าตอนกลางวันที่นี่ฟ้าโปร่งมาก ฉะนั้นตอนกลางคืนก็โปร่งเหมือนกัน
คืนที่ผมไปพักตอนที่ตื่นไปเข้าห้องน้ำตอนตี 4 นั้น ไม่ได้มืดมิดซะทีเดียวครับ
เรียกว่าไม่ต้องส่องไฟ ก็มองทางเห็น เพราะแสงดาวบนฟ้าสว่างมาก
เงยหน้าขึ้นไปมองฟ้าเห็นดาวดาวมากมายครับ แต่ก็ต้องรีบไปฉี่แล้วเข้าเต้นท์ …เพราะหนาวมาก

ขากลับแวะจุดชมวิวบนยอดภูเรือครับ ตามรูปผมขึ้นมาสายแล้วประมาณ 9.00 น.
คิดว่าถ้าวันไหนหนาว ๆ มาเช้า ๆ หน่อยอาจมีหมอกเยอะน่าจะสวยกว่านี้
จุดชมวิวจะมีรถสองแถวให้บริการครับ ค่าบริการคนละ 10 บาท
หรือจะเดินก็ได้ ระยะทางประมาณ 1 กม. แต่เป็นทางขึ้นเขานะ

มองไป ไกล ๆ นู้น เห็นถนน

คนขึ้นมาไหว้พระกัน -/\-

ผาโหล่น้อย ไม่ได้ไป ขอถ่ายป้ายไว้เป็นที่ระลึก

หินพระศิวะ ตามชื่อครับ ดูรูป แล้วจินตนาการเอานะ

กลับแล้วววว แวะถ่ายรูปหินเต่าซะหน่อย
ขาไปก็ผ่านนะ แต่เลือกว่าขอถ่ายรูปตอนขากลับดีกว่า

 

สุดท้ายตามป้ายครับ ขับรถขึ้นลงภูเขาใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษนะจ๊ะ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง : ไปเที่ยวกันที่เชียงคาน

 

 

 

 

Comments

Comments